10 อุปกรณ์งานช่างพื้นฐานที่ต้องมีติดบ้าน (DIY ได้ทันที ไม่ต้องง้อช่าง)

By: RRThailand [IP: 171.99.128.xxx]
Posted on: 2025-10-20 17:30:20


คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดไหมเมื่อประตูตู้เสื้อผ้าหลุด น็อตเก้าอี้หลวม หรือต้องเจาะผนังเพื่อติดชั้นวางใหม่ แล้วสุดท้ายก็ต้องโทรเรียกช่างเพราะไม่มี "เครื่องมือ" ที่เหมาะสม? เชื่อหรือไม่ว่างานซ่อมแซมและตกแต่งบ้านเล็กๆ น้อยๆ กว่า 90% เราสามารถจัดการเองได้ด้วยชุดเครื่องมือพื้นฐานไม่กี่ชิ้น!

บทความนี้ออกแบบมาสำหรับคนวัยทำงานและทุกคนที่อยากเปลี่ยนตัวเองเป็น "ช่างประจำบ้าน" โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกใดๆ เราจะแนะนำ อุปกรณ์งานช่างพื้นฐาน ที่ขาดไม่ได้ พร้อมเจาะลึกไปถึงส่วนประกอบสำคัญอย่าง สกรู ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานยึดติดทั้งหมด เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัย ทำให้การซ่อมของใช้ด้วยตัวเอง (DIY) เป็นเรื่องง่ายและประหยัดกว่าที่คิด



5 สุดยอดอุปกรณ์งานช่างพื้นฐาน ที่ต้องมีชุดแรก

ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ สกรู อย่างละเอียด เรามาดูกันก่อนว่า "อุปกรณ์สามัญประจำบ้าน" ที่จะช่วยให้คุณรับมือกับงานซ่อมฉุกเฉินได้ทันทีมีอะไรบ้าง:

1. ตลับเมตร (Measurement Tape): พื้นฐานที่สุดของการทำงานช่างทุกชนิด เพราะความแม่นยำเริ่มจากการวัดที่ถูกต้อง เลือกตลับเมตรที่มีความยาว 3-5 เมตร และมีตัวล็อกสายวัดที่ดี จะช่วยให้คุณวัดระยะเพื่อเจาะ หรือคำนวณขนาดเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างง่ายดาย

2. ชุดไขควง (Screwdriver Set): หัวใจของการทำงานกับน็อตและ สกรู ชุดไขควงที่ดีควรมีทั้งหัวแบนและหัวแฉกหลายขนาด นอกจากนี้ ไขควงไฟฟ้า หรือ สว่านไร้สาย ที่มีหัวเปลี่ยนสำหรับขัน สกรู จะช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาล

o Tip: ไขควงที่มีด้ามจับหุ้มยางจะช่วยเพิ่มแรงบิดและสบายมือมากกว่า

3. ค้อนหงอน (Claw Hammer): ใช้สำหรับตอกตะปูและตอกวัสดุต่างๆ ให้เข้าที่ ส่วน "หงอน" ด้านหลังใช้สำหรับงัดและถอนตะปูที่ตอกผิดพลาดได้

4. คีม (Pliers): เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์สำหรับงานจับ บิด ตัด และดึง เลือกใช้ คีมปากจระเข้ (คีมรวม) สำหรับงานทั่วไป และ คีมตัด สำหรับตัดสายไฟหรือลวด

5. ประแจเลื่อน (Adjustable Wrench): ใช้สำหรับขันหรือคลายน็อตที่มีหัวหกเหลี่ยมขนาดต่างๆ โดยสามารถปรับขนาดปากประแจได้ ทำให้ไม่ต้องพกประแจหลายตัว



เจาะลึกหัวใจของงานยึดติด ทำไมคุณต้องรู้จัก สกรู ให้ดี?

สกรู (Screw) คือตัวยึดที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลกของการซ่อมแซมและก่อสร้าง ด้วยลักษณะเป็นเกลียวทำให้มันสามารถยึดวัสดุเข้าด้วยกันได้อย่างแน่นหนาและทนทานกว่าการใช้ตะปูธรรมดา การเลือกใช้ สกรู ให้ถูกประเภทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้งานซ่อมของคุณจบเร็วและใช้งานได้ยาวนาน



ประเภทของสกรูที่ช่างมือใหม่ควรรู้จัก

การแบ่งประเภทของ สกรู สามารถดูได้จากวัสดุที่ใช้ยึดและลักษณะของหัว:

1. แบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

• สกรูเกลียวปล่อย/สกรูไม้ (Wood Screw): เป็น สกรู ที่มีเกลียวหยาบและปลายแหลมคม ใช้สำหรับยึดชิ้นงานไม้โดยเฉพาะ สามารถขันเข้าเนื้อไม้ได้โดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเมีย (น็อต) ในการยึด เหมาะสำหรับงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ

• สกรูปลายสว่าน (Self Drilling Screw): หรือที่เรียกกันว่า "สกรูยิงหลังคา" ส่วนปลายจะมีลักษณะคล้ายดอกสว่าน ใช้สำหรับเจาะและยึดโลหะเข้าด้วยกันได้ในขั้นตอนเดียว (ไม่ต้องเจาะนำ) เป็นที่นิยมในงานเหล็กและงานโครงสร้างเบา

• สกรูเกลียวละเอียด/สกรูเครื่องจักร (Machine Screw): มีเกลียวละเอียดตลอดลำตัว ใช้สำหรับยึดชิ้นส่วนของเครื่องจักร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือโลหะที่ต้องการความเที่ยงตรงสูง และมักจะใช้ร่วมกับ น็อตตัวเมีย เพื่อเพิ่มความแน่นหนา



2. แบ่งตามรูปแบบของหัวสกรู (เพื่อเลือกใช้ไขควงให้ถูก)

• หัวแบน/หัวเรียบ (Flat Head): หัว สกรู จะเรียบเสมอไปกับพื้นผิววัสดุ ทำให้งานดูสวยงามและไม่ขวางการใช้งาน นิยมใช้กับงานที่ต้องการความสวยงาม เช่น การติดบานพับหรือยึดไม้เข้าด้วยกัน

• หัวกลมนูน (Pan Head/Round Head): หัว สกรู จะนูนออกมาด้านบนเล็กน้อย ช่วยเพิ่มแรงกดในการยึดชิ้นงาน นิยมใช้ในงานทั่วไปที่ไม่ต้องการซ่อนหัว สกรู

• หัวหกเหลี่ยม (Hex Head): ใช้สำหรับงานที่ต้องใช้ประแจในการขัน ยึดได้แน่นหนามาก มักใช้ในงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง

Visitors: 74,074