สร้างบ้าน 1 หลังใช้เงินเท่าไหร่? เปิดปัจจัยสำคัญสำหรับคนเล็งบ้านหลังแรก

สร้างบ้าน 1 หลังใช้เงินเท่าไหร่? เปิดปัจจัยสำคัญสำหรับคนเล็งบ้านหลังแรก





"สร้างบ้าน 1 หลังต้องใช้เงินเท่าไหร่?" คือคำถามยอดฮิตติดอันดับสำหรับทุกคนที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ในความเป็นจริง คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะการสร้างบ้านเปรียบเหมือนการประกอบอาหารจานพิเศษที่เต็มไปด้วยส่วนผสมหลากหลาย ต้นทุนทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมาย ตั้งแต่วัสดุที่มองเห็นอย่างกระเบื้องสีสวย ไปจนถึงส่วนที่มองไม่เห็นแต่สำคัญที่สุดอย่างงานฐานราก ซึ่งเทคโนโลยีอย่าง เสาเข็มไมโครไพล์ ก็เข้ามามีบทบาทในงบประมาณส่วนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ บทความนี้จะมาแจกแจงปัจจัยหลักๆ ที่จะช่วยให้คุณประเมินงบประมาณในการสร้างบ้านในฝันได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น



สูตรคำนวณเบื้องต้น: ราคาต่อตารางเมตร

วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดที่ผู้รับเหมาและสถาปนิกมักใช้ในการประเมินงบประมาณเบื้องต้น คือการคิด "ราคาค่าก่อสร้างต่อตารางเมตร" โดยจะแบ่งเกรดของวัสดุและสเปคของบ้านไว้คร่าวๆ ดังนี้

• เกรดมาตรฐาน (Standard): ใช้วัสดุทั่วไปที่ได้มาตรฐาน มอก. ไม่ได้เน้นความหรูหรา

o ประมาณ 15,000 – 18,000 บาท ต่อตารางเมตร

• เกรดกลาง (Medium): เลือกใช้วัสดุที่คุณภาพดีขึ้น มีดีไซน์ที่สวยงามมากขึ้น

o ประมาณ 18,000 – 22,000 บาท ต่อตารางเมตร

• เกรดพรีเมียม (Premium): ใช้วัสดุนำเข้าระดับไฮเอนด์ มีการตกแต่งภายในที่ซับซ้อน

o ประมาณ 22,000 – 30,000+ บาท ต่อตารางเมตร

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการสร้างบ้านขนาด 200 ตารางเมตร ด้วยวัสดุเกรดกลาง งบประมาณเบื้องต้นจะอยู่ที่ 200 x 20,000 = 4,000,000 บาท (โดยประมาณ)



ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่องบประมาณโดยตรง

ราคาต่อตารางเมตรเป็นเพียงการประเมินคร่าวๆ เท่านั้น แต่งบประมาณที่แท้จริงจะผันผวนตามปัจจัยเหล่านี้

• ขนาดและพื้นที่ใช้สอย: ยิ่งบ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ ราคาก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

• ความซับซ้อนของแบบบ้าน: บ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีรูปทรงกล่องเรียบๆ มักจะมีค่าก่อสร้างถูกกว่าบ้านสไตล์คลาสสิกหรือหลุยส์ที่มีรายละเอียดซับซ้อน เช่น ซุ้มโค้ง หรือบัวปูนปั้น

• เกรดของวัสดุตกแต่ง: นี่คือส่วนที่ทำให้งบประมาณบานปลายได้ง่ายที่สุด ราคาของกระเบื้องปูพื้น, สุขภัณฑ์, ชุดครัว, และวัสดุปิดผิว มีช่วงราคาที่กว้างมากตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นต่อตารางเมตร



เจาะลึก 3 ส่วนประกอบหลักของค่าใช้จ่าย

งบประมาณการสร้างบ้านทั้งหมด สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนงานหลักๆ ได้ดังนี้

1. งานโครงสร้าง (ประมาณ 30% ของงบ)

นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของบ้าน ต้องแข็งแรงและได้มาตรฐานทางวิศวกรรม ประกอบไปด้วย:

• งานฐานราก (เสาเข็ม)

• งานเสาและคานคอนกรีตเสริมเหล็ก

• งานพื้นและโครงสร้างหลังคา

2. งานสถาปัตยกรรม (ประมาณ 60% ของงบ)

คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสวยงามและการใช้งานโดยตรง เป็นส่วนที่เรามองเห็นและสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน ประกอบไปด้วย:

• งานมุงหลังคา

• งานก่อผนังและฉาบปูน

• งานติดตั้งประตู หน้าต่าง

• งานปูกระเบื้องและวัสดุปูพื้น

• งานฝ้าเพดาน

• งานทาสี

• งานติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

3. งานระบบ (ประมาณ 10% ของงบ)

คือระบบที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัย เปรียบเสมือนเส้นเลือดของบ้าน

• งานเดินท่อประปาและระบบสุขาภิบาล

• งานเดินสายไฟและติดตั้งระบบแสงสว่าง

• งานติดตั้งถังบำบัดและถังเก็บน้ำ



ทำไม เสาเข็มไมโครไพล์ ถึงเป็นตัวเลือกสำคัญ

ในส่วนของงานโครงสร้าง "งานฐานราก" คือส่วนที่ซ่อนอยู่ใต้ดินแต่กำหนดความมั่นคงของบ้านทั้งหลัง ในพื้นที่ที่ชั้นดินอ่อนอย่างกรุงเทพฯและปริมณฑล การตอกเสาเข็มให้ลึกถึงชั้นดินแข็งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

ในอดีตอาจใช้เสาเข็มตอกขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการก่อสร้างในพื้นที่ชุมชนที่มีบ้านข้างเคียง หรือการต่อเติมบ้านเดิม เทคโนโลยี เสาเข็มไมโครไพล์ ได้กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง แม้ว่าราคาเริ่มต้นอาจจะสูงกว่าเสาเข็มทั่วไป แต่ เสาเข็มไมโครไพล์ มีข้อดีคือสามารถทำงานในพื้นที่แคบได้, ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก (ไม่กระทบกระเทือนบ้านข้างเคียง), และสามารถตอกได้ลึกตามที่วิศวกรกำหนด ทำให้เป็นต้นทุนที่จำเป็นต้องพิจารณาในงบประมาณส่วนโครงสร้างเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว



ค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่ห้ามลืม

นอกเหนือจาก 3 ส่วนงานหลัก ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ผู้สร้างบ้านมือใหม่มักลืมคำนวณเข้าไปในงบประมาณ

• ค่าที่ดิน: (หากยังไม่มี)

• ค่าออกแบบและค่าวิศวกร: ประมาณ 3-7% ของค่าก่อสร้าง

• ค่าขออนุญาตก่อสร้าง: ค่าธรรมเนียมต่างๆ กับหน่วยงานราชการ

• ค่าธรรมเนียมการเชื่อมต่อสาธารณูปโภค: เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์

• งบประมาณสำหรับการตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์: ซึ่งเป็นคนละส่วนกับค่าก่อสร้าง