อัตราความสำเร็จของการ ผ่าตัดหมอนรองกระดูก สูงแค่ไหน?

By: พี่ตุ้ย [IP: 171.99.128.xxx]
Posted on: 2025-10-30 18:01:09
อัตราความสำเร็จของการ ผ่าตัดหมอนรองกระดูก สูงแค่ไหน?

เมื่อความเจ็บปวดจากอาการปวดหลังร้าวลงขากลายเป็นอุปสรรคร้ายแรงในการใช้ชีวิต และการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือการรับประทานยา ไม่ได้ผลอีกต่อไป "การผ่าตัด" มักจะเป็นทางเลือกที่แพทย์หยิบยื่นให้ แต่เพียงแค่ได้ยินคำว่า "ผ่าตัดหลัง" หลายคนก็เกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและ "อัตราความสำเร็จ" ของการ ผ่าตัดหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นหนึ่งในการผ่าตัดที่พบบ่อยที่สุด และนำไปสู่คำถามที่สำคัญไม่แพ้กันว่า ถ้าจำเป็นต้องทำจริงๆ แล้ว หมอนรองกระดูกทับเส้นรักษาที่ไหนดีบทความนี้จะมาเจาะลึกข้อมูลเพื่อคลายความกังวลเหล่านั้น



"การผ่าตัด" ไม่ใช่ทางเลือกแรกเสมอไป

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำความเข้าใจคือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังจะไม่แนะนำการผ่าตัดเป็นทางเลือกแรกในทันที (ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน) สำหรับอาการปวดหลังส่วนใหญ่ที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการรักษาแบบประคับประคอง (Conservative Treatment) ก่อนเสมอ

• การพักผ่อนและปรับพฤติกรรม

• การรับประทานยา: ยาลดการอักเสบ, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาบรรเทาปวดเส้นประสาท

• การทำกายภาพบำบัด: เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และลดการกดทับของเส้นประสาท

• การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงกระดูกสันหลัง: เพื่อลดการอักเสบที่ตัวเส้นประสาทโดยตรง



ข้อบ่งชี้ที่จำเป็นต้อง "ผ่าตัดหมอนรองกระดูก"

การผ่าตัดจะถูกพิจารณาเมื่อผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้

1. รักษาด้วยวิธีประคับประคองอย่างเต็มที่แล้ว (อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์) แต่อาการปวดยังรุนแรงมาก

2. มีอาการปวดร้าวลงขาจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้

3. มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างชัดเจน เช่น กระดกข้อเท้าไม่ขึ้น หรือเดินลำบาก

4. มีภาวะฉุกเฉินทางกระดูกสันหลัง คือ ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะได้ (Cauda Equina Syndrome) ซึ่งต้องผ่าตัดด่วนที่สุด



อัตราความสำเร็จของการผ่าตัด: วัดจากอะไร?

คำว่า "สำเร็จ" สำหรับผู้ป่วยแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่ในทางการแพทย์ อัตราความสำเร็จของการ ผ่าตัดหมอนรองกระดูก นั้นวัดผลจาก

• การลดลงของอาการปวดร้าวลงขา: นี่คือเป้าหมายหลักของการผ่าตัด

• การฟื้นตัวของระบบประสาท: อาการชาหรืออ่อนแรงดีขึ้น

• การกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหรือทำงานได้

• ความพึงพอใจโดยรวมของผู้ป่วย



ตัวเลขจริงของอัตราความสำเร็จ

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องว่าอาการปวดร้าวลงขา (Sciatica) เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอย่างชัดเจน

ข่าวดีคือ: การผ่าตัดหมอนรองกระดูกด้วยเทคนิคสมัยใหม่ มีอัตราความสำเร็จในการบรรเทาอาการปวดร้าวลงขาสูงถึง 85% - 95%

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าอาการปวดที่ขาหายไปหรือดีขึ้นมากทันทีหลังจากฟื้นจากการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม อาการชา หรืออาการปวดหลังส่วนลึก (ที่ไม่ใช่การปวดร้าว) อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่า หรืออาจยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง



เทคโนโลยีสมัยใหม่คือกุญแจสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้น

ในอดีต การผ่าตัดหลังคือการผ่าตัดใหญ่แบบเปิดแผลกว้าง (Open Surgery) ทำให้กล้ามเนื้อบอบช้ำและใช้เวลาพักฟื้นนาน แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการผ่าตัดได้พัฒนาไปไกลมาก

• การผ่าตัดแบบแผลเล็ก (MIS): ใช้การส่องกล้องจุลทรรศน์ (Microscope) แผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กลงมาก

• การผ่าตัดผ่านกล้องเอนโดสโคป (Endoscopic Surgery): เป็นเทคนิคที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน ใช้กล้องขนาดเล็กมาก (ประมาณ 8 มม.) สอดเข้าไปยังจุดที่เป็นปัญหา แผลผ่าตัดจะเล็กเท่ารูเข็ม, เสียเลือดน้อยมาก, กล้ามเนื้อไม่บอบช้ำ และผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวกลับไปเดินได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง



หมอนรองกระดูกทับเส้นรักษาที่ไหนดี

เทคโนโลยีที่ดีต้องมาพร้อมกับศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ อัตราความสำเร็จจะสูงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกสถานพยาบาลและทีมแพทย์เป็นอย่างมาก คำถามว่า หมอนรองกระดูกทับเส้นรักษาที่ไหนดี ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

• ความชำนาญของศัลยแพทย์: ควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง (Spine Surgeon) โดยตรง

• ประสบการณ์ในการผ่าตัดแบบแผลเล็ก: ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงในการผ่าตัดผ่านกล้องเอนโดสโคป ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง

• เทคโนโลยีและเครื่องมือของโรงพยาบาล: โรงพยาบาลมีความพร้อมด้านเครื่องมือผ่าตัดสมัยใหม่หรือไม่

• ทีมสหสาขาวิชาชีพ: มีนักกายภาพบำบัดและทีมดูแลหลังการผ่าตัดที่แข็งแกร่งหรือไม่



Visitors: 74,381